วันอังคารที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ดูแลผิวให้สวยด้วยผลไม้ 9 อย่าง



1 ส้ม
ส้มซึ่งมีหลายชนิดและเลือกรับประทานได้ ผลที่มีรสเปรี้ยวหรือหวาน มักจะมีแคลเซียม โปแทสเซียม ไวตามินเอ และไวตามินซี มากเป็นพิเศษซึ่งทำให้ส้มนั้น อุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระซึ่งจะช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใสดูอ่อนไวตลอดเวลา



2 มะนาว
นับเป็นผลไม้ที่มีคุณค่า นิยมใช้เป็นเครื่องปรุงรส นอกจากนี้ยังถือว่ามีคุณค่าทางโภชนาการและทางการแพทย์ด้วย ซึ่งมะนาวนั้นอุดมไปด้วยวิตามินซี ซึ่งมีประโยชน์ต่อผิว และยังช่วยทำความสะอาดตับซึ่งทำหน้าที่กำจัดของเสียออกจากร่างกายได้อีกด้วย




  3 ฝรั่ง
ฝรั่ง ขีดมีวิตามินซีสูงถึง180 มิลลิกรัม วิตามินซีมีบทบาทในการสร้างคอลลาเจนที่ทำให้ผิวพรรณบนใบหน้าของคุณเต่งตึงไม่แก่ก่อนวัยซึ่งคอยบำรุงเนื้อเยื่อเกี่ยวพันหรือคอลลาเจนตัวเดียวกับที่ทำให้หน้าสาวๆอย่างเราเต่งตึงนี่แหละ นอกจากนี้น้ำต้มผลฝรั่งตากแห้ง มีฤทธิ์แก้คออักเสบ เสียงแห้งด้วย


  4 กล้วย
กล้วยทุกชนิดนั้นดีต่อสุขภาพแต่แนะนำให้ทานกล้วยไข่ ซึ่งกล้วยไข่นั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระหรือเบต้าแคโรทีนมากกว่ากล้วยอื่นๆเป็นพิเศษ ซึ่งช่วยทำให้ผิวนั้นไม่เหี่ยวย่นไปตามวัย


  5 กีวี
กีวีซึ่งมีวิตามินอีมากสุดจากการวิจัย และประกอบด้วยวิตามินซีที่เป็นประโยชน์ต่อการสร้างคอลลาเจนอีกด้วย


6 แครอต
แครอตนั้นอุดมไปด้วยสารเบต้าแคโรทีนในปริมาณสูงที่สุดในบรรดาผักสีส้มด้วยกัน และเมื่อเข้าสู่ร่างกายจะเปลี่ยนสภาพเป็นวิตามินเอ ซึ่งมีประโยชน์ต่อสายตา ทำให้มองเห็นในที่มืดและรักษาโรคตาฟางได้อีกดวย และนอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยกำจัดอนุมูลอิสระที่เกิดจากควันบุหรี่และแสงแดดที่แรงจัดได้



7 อะโวคาโด
อะโวคาโด้นั้นเมื่อทานเข้าไปจะทำให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย เพราะวิตามินบีในอะโวคาโด จะทำให้ร่างกายเกิดความต้านทานในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการปกป้องผิวหน้าจากมลพิษได้ด้วย และการกินอะโวคาโดวันละผลจะช่วยทำให้ร่างกายได้รับวิตามินอีที่ร่างกายต้องการเพียงพอในแต่ละวัน


8 มะเขือเทศ
มะเขือเทศมีเบต้าแคโรทีนมากและสามารถรักษาสิว สมานผิวหน้าให้เต่งตึง โดยใช้น้ำมะเขือเทศพอกหน้า หรือนำมะเขือเทศสุกฝานบาง ๆ แปะบนใบหน้า จะช่วยให้ผิวหน้าอ่อนนุ่มได้ มะเขือเทศนั้นมีสรรพคุณทางยาค่อนข้างสูง เพราะมะเขือเทศมีวิตามินพี ซึ่งจะช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด นอกจากนี้มะเขือเทศยังมีฤทธิ์ขับปัสสาวะจึงสามารถแก้อาการความดัน และมะเขือเทศมีวิตามินเอจึงสามารถรักษาโรคตาได้ เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีอีกหนึ่งอย่างคือมีวิตามินซีมากทำให้สามารถป้องกันและรักษาโรคลักปิดลักเปิดและช่วยการช่วยระบบการย่อยและช่วยการขับถ่ายอุจจาระอีกด้วย


9 ทุเรียน
คงแปลกใจใช่ไหมหล่ะคะทำไมถึงมีทุเรียนติดมาด้วย ซึ่งทุเรียนนั้นถึงแม้อาจจะอ้วนแต่ว่าเนื้อทุเรียนนั้นมีความร้อน ทำให้แก้โรคผิวหนังหรือทำให้ฝี-หนอง แห้งและเนื้อทุเรียนมีฤทธิ์ขับพยาธิอีกด้วยค่ะ ส่วนเปลือกหนามทุเรียนนั้นนำมาสับแล้วแช่ในน้ำปูนใสสามารถใช้ชะล้างแผลที่เกิดจากน้ำเหลืองเสีย แผลพุพอง หรือนำมาเผาทำถ่าน บดจนเป็นผง คลุกในน้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันงา ลดความบวมพองจากคางทูมได้ค่ะ และยังสามารถเผาเอาควันไล่ยุงและแมลงได้อีกด้วยค่ะ ส่วนใบของทุเรียนนั้นสามารถใช้ต้มน้ำอาบแก้ไข้ แก้ดีซ่านและเป็นส่วนผสมในยาขับพยาธิด้วยค่ะ สุดท้ายรากจากต้นทุเรียนนำไปตัดเป็นข้อ ๆ ต้มให้เดือด ดื่มบรรเทาอาการไข้และรักษาอาการท้องร่วงได้ด้วยค่ะ สารพัดประโยชน์จริงเลย(แต่บริโภคแต่พอดี) 




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น